ประวัติปืน AUG

STEYR AUG เป็นปืนเล็กยาวจากออสเตรีย ถือกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1970 โดยบริษัท Steyr Mannlicher GmbH & co KG  ซึ่งคำว่า AUG ย่อมาจาก Armee Universal Gewehr หรือ ปืนไรเฟิลอเนกประสงค์ที่ใช้ในกองทัพ โดยความตั้งใจในตอนแรก คือต้องการผลิตเพื่อมาทดแทนปืน FN FAL ซึ่งมีรหัสคือ Stg 77 หมายเลข 77  คือปีที่ AUG เข้าประจำการ แต่ข้อมูลอีกด้านหนึ่งบอกว่า AUG นำเข้ามาใช้ในกองทัพ ปี ค.ศ.1978 ซึ่งเป็นกองทัพของออสเตรีย , องค์การตำรวจ , กองทัพอาเจนติน่า , ออสเตรเลีย, ไอร์แลนด์ , ลักซ์เซมเบอร์ก , ตูนิเซีย เป็นต้น ซึ่งต่อมาออสเตรเลียได้ควักกระเป๋าซื้อแบบปืนไปผลิตเองด้วย

AUG เป็นปืนที่ได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูง เพื่อใช้งานในเหตุการณ์ที่แตกต่างกันไป เพราะฉะนั้นลำกล้องของ AUG จึงมีหลากหลายขนาด ชิ้นส่วนส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นจาก Polymer มีส่วนประกอบที่เป็นเหล็กบ้างในชิ้นส่วนที่ต้องการความแข็งแรง

AUG A1 ประกอบด้วยชิ้นส่วน 6 ชิ้นใหญ่ ดังนี้

• ลำกล้อง
• โครงปืนที่เป็นหูหิ้ว , มีลำกล้องเล็งพร้อม
• ลูกเลื่อน , ห้องลูกเลื่อน
• ชุดลั่นไก
• พานท้าย , แม็กกาซีน

ระบบการทำงานของปืนชนิดนี้ คือ ระบบ GAS operated หรือ การยิงเมื่อลูกเลื่อนปิด วิธีการทำงาน คือ กระบอกสูบด้านขวาของตัวปืน จะคอยรับแรงดันของแก็สอันเกิดจากการเผาไหม้ เพื่อไปผลัก Guide rod ทางขวา เพื่อเข้าไปดันนกปืนให้ขัดกับ Seer ไว้ หลังจากหมดระยะแล้ว Guide rod ซึ่งอยู่ติดกับลูกเลื่อนก็จะเคลื่อนที่กลับไปข้างหน้า ด้วยพลังงานจากสปริง Guide rod พร้อมบรรจุกระสุนเข้ารังเพลิง ต่อจากนั้นลูกเลื่อนก็จะหมุนไปตามร่องบังคับและเข้าไปขัดกลอน รอการเหนี่ยวไกครั้งต่อไป

โดยการยิงนัดแรก กลไกลของปืนจะใช้การดึงคันลูกเลื่อนถอยไปข้างหลัง ตามด้วยให้ลูกเลื่อนพากระสุนเข้าสู่รังเพลิง นอกจากนี้ถ้าเป็นในรอบของการยิง  มันจะทำงานจากการที่คุณยิงในนัดแรกไปแล้ว ก็จะส่งผลให้แก็สอันเกิดจากการเผาไหม้ทำการไหลย้อนกลับและเข้ามาผลักในระบบการยิงนั่นเอง โดยปืน AUG ยิงได้ทั้งแบบ Semi-automatic หรือ Full Auto คือ ผู้ใช้สามารถบังคับเพียงจากการเหนี่ยวไกเท่านั้น พูดง่ายๆก็คือ ถ้าผู้ใช้บีบไกเข้าแค่ครึ่งทางก็จะเป็นการยิงแบบ Semi-automatic แต่ถ้าหากบีบไกจนสุดปืนก็จะยิงในแบบ Full Auto ทันที

สำหรับการนำ AUG ไปใช้ในการรักษาความปลอดภัยในหน่วยงานของรัฐแล้ว ทางบริษัท Steyr ยังได้ออกรุ่น AUG P สำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์ หรือเป็นจำหน่ายให้กับประชาชนคนทั่วไปนั่นเอง แต่สามารถจำหน่ายได้ในบางประเทศเท่านั้น ส่วนประเทศไทยไม่อนุญาต