การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ว่า จะเป็นเด็กยันผู้สูงวัย โดยเฉพาะ อาชีพที่ต้องใช้ความแข็งแรงของร่างกาย ในการดูแลรักษาปกป้องประเทศ อย่างทหาร วันนี้จะมาแนะนำการดูแลสุขภาพร่างกายในแบบทหารสไตล์ผมกัน
ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ You are what you eat 1 ในประโยคคลาสสิกตลอดกาล แปลออกมาก็คือ คุณกินอะไรคุณก็เป็นอย่างนั้น สุขภาพแข็งแรงมากจากการกินอาหารที่เหมาะสม ทั้ง โปรตีน , คาร์โบไฮเดรต , พืชผัก, ผลไม้ ,ไขมัน โดยเฉพาะไขมันทานให้น้อยสุดจะเป็นการดีมาก ในส่วนของรสชาติ พยายามลดอาหาร หวานจัด , เค็มจัด , มันจัด เพราะ เป็นตัวการสำคัญในการทำลายสุขภาพ หรือ เลือกกินง่ายๆอย่าง ผักครึ่งหนึ่งอย่างอื่นครึ่งหนึ่งต่อมื้อ ก็ได้

- นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การนอนหลับเป็นการชาร์ตแบตให้กับร่างกาย คนเราต้องการเวลานอนแตกต่างกัน ควรสังเกตตัวเองว่านอนกี่ชั่วโมงทำให้เรารู้สึกสดชื่น สมองปลอดโปร่ง มากที่สุด การนอนน้อยไปก็ไม่ดี มากไปก็ไม่ดี เพราะฉะนั้นเราควรเดินทางสายกลาง ปรับชั่วโมงการนอนให้เหมาะสมกับตัวเอง รวมถึง พยายาม ตื่น และ นอนให้เป็นเวลาร่างกายได้จดจำได้
- ออกกำลังกาย เป็นเรื่องสำคัญมากอีกเรื่องหนึ่ง เพราะ ทหารเป็นอาชีพรับใช้แผ่นดิน โดยการใช้แรงกายที่ฝึกฝนมาอย่างหนัก ในการเข้าปกป้องประเทศ หรือ ทำภารกิจสำคัญต่างๆ บางทีต้องยืนกลางแดดร้อนๆหลายชั่วโมง เพราะฉะนั้น ความแข็งแรงของร่างกายจึงจำเป็นมาก ส่วนการออกกำลังกายของคนทั่วไปนั้น ก็มีหลากหลายแบบให้เลือก ตามแต่ความชอบของแต่ล่ะคน การออกกำลังกายที่ดีไม่ควรหักโหมจนเกินไป อาจทำให้ร่างกายบาดเจ็บได้
- สุขภาพจิตที่ดีมาพร้อมกับสุขภาพกายที่ดี จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว หลายๆคนคงคุ้นเคยกับประโยคนี้ นอกจากการดูแลสุขภาพภายนอกแล้ว ต้องไม่ลืมดูแลสุขภาพภายในใจของเราด้วย สุขภาพจิตที่ดีจะทำให้สมองหลั่งสารดีๆออกมา ทำให้เรารับมือกับสถานการณ์เลวร้ายต่างๆ ได้ด้วยสติ เช่น ตอนปฏิบัติภารกิจอันยากลำบาก การฝีกคิดบวกทำให้เราสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้
- ไม่เสพย์สารเสพย์ติด อย่างเช่นบุหรี่ หรือ เหล้า บุหรี่ให้โทษมากกว่าให้คุณ ถ้าคิดจะสูบเพราะต้องการคลายเครียด ขอบอกว่าคิดผิดอย่างแรง บุหรี่ทำให้เหนื่อยง่ายมากกว่าเดิมเป็นภาระกับปอด แถม ควันยังเป็นของมือ2 สามารถทำร้ายคนใกล้ชิดได้ หรือ เหล้าถ้าดื่มมากๆเป็นกิจวัตรประจำวันก็ทำให้ติด ทำร้ายตับ ทำร้ายสุขภาพอันมีค่า
นี่เป็นวิธีดูแลสุขภาพในแบบทหารของผม ซึ่งทุกคนสามารถนำไปปรับใช้กันได้ อย่างไรก็ตามการรักษาสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีอายุเท่าไหร่ หรือ ประกอบอาชีพใดๆก็ตาม